ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานทั้งในฐานะเครื่องมือการลงทุนเพื่อรักษามูลค่าในระยะยาว และการเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากมีคุณสมบัติป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยแนวทางในการสร้างผลกำไรจากทองคำหลัก ๆ แล้วมี 2 แบบด้วยกันคือ ‘เทรดทอง vs ลงทุนทองคำ’ แต่คำถามคือทั้ง 2 แบบ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแนวทางไหนที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทั้งสองแนวทางเพื่อให้สามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ
การเทรดทอง (Gold Trading) คือการซื้อขายทองคำในระยะสั้นเพื่อทำกำไรจากราคาที่เปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนใหญ่จะทำผ่านตลาดอนุพันธ์ซึ่งมีสินค้าการเงินที่เกี่ยวข้องกับราคาทอง เช่น Gold Futures, Gold CFDs และ Spot Gold
โดยผู้ที่เทรดทองมักจะเน้นการวิเคราะห์กราฟราคา คาดการณ์แนวโน้มตลาด และซื้อขายในกรอบเวลาสั้น ๆ เช่น ซื้อขายภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่นาที (Scalping), ซื้อขายภายในวันเดียว (Day Trading) หรือซื้อเก็งกำไรไว้หลายวันแล้วค่อยขาย (Swing Trading)
๐ สามารถทำกำไรได้เร็วจากความผันผวนของราคา : ทองคำมีการเคลื่อนไหวของราคาที่เร็วและชัดเจน ทำให้มีโอกาสสร้างกำไรในระยะเวลาสั้น ๆ ได้
๐ สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง : การเทรดทองสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลง โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น สัญญา Futures หรือ CFDs
๐ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูงมาก : โดยเฉพาะในการเทรดผ่านตลาดฟอเรกซ์ หรือ CFDs ที่สามารถลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อทองจริง
๐ มีความเสี่ยงสูง : เนื่องจากราคาผันผวนรวดเร็ว และไม่สามารถคาดการณ์ได้ง่าย อาจทำให้เกิดความสูญเสียสูงในเวลาอันสั้น
๐ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการวิเคราะห์ทางเทคนิค : การทำกำไรจากการเทรดทองต้องอาศัยการวิเคราะห์กราฟราคาที่แม่นยำและการตัดสินใจที่รวดเร็ว
๐ ต้องใช้เวลาในการติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง : เพื่อให้สามารถจับจังหวะในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด
การลงทุนทองคำ (Gold Investing) คือการถือครองทองคำในระยะยาวเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) และป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ โดยทองคำมักจะมีมูลค่าที่มั่นคงหรือเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน เช่น เงินเฟ้อสูง หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย
การลงทุนทองคำจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บรักษาความมั่งคั่งไว้ในระยะยาวมากกว่าการทำกำไรอย่างรวดเร็ว วิธีนี้เป็นทางเลือกการลงทุนที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้เวลาในการเฝ้าติดตามราคาอย่างต่อเนื่อง
๐ มีความเสี่ยงต่ำ : ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าค่อนข้างมั่นคง จึงเหมาะกับการลงทุนระยะยาว
๐ ช่วยป้องกันเงินเฟ้อ : ทองคำมักจะรักษาหรือเพิ่มมูลค่าในช่วงที่มีเงินเฟ้อ ทำให้สามารถปกป้องมูลค่าสินทรัพย์ในพอร์ตได้ดี
๐ ง่ายต่อการบริหารจัดการ : ไม่ต้องใช้เวลาในการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดหรือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากเท่าการเทรด
๐ โอกาสทำกำไรช้ากว่า : เนื่องจากเน้นการถือครองระยะยาว จึงอาจไม่ได้กำไรที่รวดเร็วเหมือนกับการเทรด
๐ ต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้น : การลงทุนในทองคำจริง เช่น ทองแท่งหรือทองรูปพรรณ มักต้องใช้เงินลงทุนที่สูงกว่าการเทรดผ่านตลาดอนุพันธ์
๐ มีต้นทุนในการเก็บรักษา : อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเก็บรักษาทองคำ เช่น ค่าตู้เซฟ หรือค่าธรรมเนียมการเก็บรักษาในธนาคาร
๐ ผู้ที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น
เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนอาจต้องการเน้นซื้อขายเพื่อหากำไรเร็วจากราคาที่เปลี่ยนแปลง ทำให้มีโอกาสทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
๐ ผู้ที่มีทักษะพื้นฐานด้านการวิเคราะห์
การเทรดทองต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ เช่น การอ่านกราฟราคา การใช้เครื่องมือต่าง ๆ และกลยุทธ์การซื้อขาย เพื่อช่วยในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งความสามารถในการรับความเสี่ยงที่สูงกว่าการลงทุนแบบปกติ
๐ ผู้ที่สามารถใช้เวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
การเทรดทองเหมาะกับผู้ที่สามารถจัดสรรเวลาเพื่อติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เนื่องจากการเทรดทองต้องอาศัยความรวดเร็วในการตัดสินใจ และต้องมีวินัยในการบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนจากความผันผวนของตลาด
๐ ผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
การลงทุนในทองคำเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาวและต้องการรักษาความมั่นคง โดยเน้นความปลอดภัยและการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
๐ ผู้ที่ไม่ต้องการความผันผวนสูงจากตลาดการเงิน
เนื่องจากการลงทุนในทองคำมีความผันผวนที่ต่ำกว่าการเทรดทอง จึงนับเป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด เพราะการลงทุนทองคำเน้นการถือครองระยะยาวและไม่ต้องวิเคราะห์ทางเทคนิคบ่อยนัก
๐ ผู้ที่มองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อรักษามูลค่าเงินลงทุนในช่วงวิกฤติ
ผู้ที่มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการลงทุนระยะยาวและต้องการกระจายความเสี่ยงด้วยสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากกว่าสินทรัพย์ที่ผันผวนสูง
การเลือกระหว่างเทรดทอง vs ลงทุนทองคำนั้นไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง เพราะทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับเป้าหมายและการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
การเทรดทองเหมาะกับผู้ที่ชอบความตื่นเต้น ต้องการทำกำไรระยะสั้น รับความเสี่ยงได้สูง และมีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ต้องมีการจัดการความเสี่ยงและความรู้ทางเทคนิคที่ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนจากความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
ในขณะที่การลงทุนทองคำเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคง รักษามูลค่าเงิน และลดความเสี่ยงระยะยาว เช่น ซื้อทองคำแท่งหรือกองทุนทองคำ ข้อดีคือความเสี่ยงต่ำกว่า แต่ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าการเทรดทอง และอาจมีต้นทุนเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การเก็บรักษาหรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ดังนั้น การตัดสินใจเลือกระหว่างการเทรดทอง vs ลงทุนทองคำจึงควรพิจารณาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ระยะเวลาการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่แต่ละบุคคลยอมรับได้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการเฉพาะตัวของนักลงทุนแต่ละคน หรือใครที่มีเป้าหมายทั้งการทำกำไรระยะสั้น และการสร้างความมั่นคงระยะยาว ก็สามารถทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไปได้ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบแล้วว่าการเทรดทอง vs ลงทุนทองคำ แตกต่างกันอย่างไร และสำหรับใครที่คิดว่าการลงทุนทองคำสอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ และสนใจอยากลงทุนในทองคำแบบจ่ายชิล ๆ รายเดือน ไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ สามารถแวะมาได้ที่ Easy Money เรารับผ่อนทองเพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็เข้ามาที่สาขาได้เลย หมดกังวลเรื่องอยากผ่อนทองแต่ไม่มีบัตรเครดิต ! ติดต่อเราได้ที่สาขา Easy Money ใกล้บ้านคุณ หรือโทร. Call center: 02-113-1123 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยคุณเลือกแผนการผ่อนทองหลุดจำนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
ข้อมูลอ้างอิง
1. How to trade or invest in gold: a beginner's guide?. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 จาก https://www.markets.com/education-centre/how-to-trade-or-invest-in-gold-a-beginners-guide/#:~:text=You%20would%20buy%20gold%20directly,gold%20using%20different%20financial%20products.