สำหรับคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เงินตึงมือ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และมั่นใจว่าเงินไม่พอจ่ายค่างวดรถแน่ ๆ อาจกำลังตกอยู่ในช่วงวิตกกังวล เพราะกลัวว่าอาจโดนยึดรถ! โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้รถในการหารายได้คงรู้สึกมืดแปดด้าน ดังนั้นเพื่อช่วยคลายความกังวลใจ เรามีวิธีเอาตัวรอดจากปัญหาผ่อนรถไม่ไหวอย่างปลอดภัยมาแนะนำกัน
สาเหตุที่ทำให้เงินไม่พอจ่ายค่างวดรถของแต่ละคนต่างกันออกไป แต่ที่มักพบได้บ่อยครั้ง คือ
ด้วยเศรษฐกิจยุคข้าวยากหมากแพง นอกจากคนทั่วไปต้องรัดเข็มขัดแล้ว ผู้ประกอบการในธุรกิจต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของตนเองเช่นกัน นั่นจึงทำให้หลายคนประสบกับปัญหาถูกลดเงินเดือน ถูกเลิกจ้าง ส่งผลให้รายได้ลดลงอย่างกะทันหัน แต่ภาระค่าใช้จ่ายยังคงอยู่เท่าเดิม โดยเฉพาะค่างวดรถที่เป็นภาระผูกพันระยะยาว
ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือคนในครอบครัว มักเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้ต้องนำเงินค่างวดรถ มาใช้จ่ายในส่วนนี้ก่อน จนเงินเหลือไม่พอ หรือหาเงินมาเพิ่มไม่ทันจ่ายค่างวดรถ
หลายคนอาจประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองไม่เหมาะสม โดยเลือกรถราคาแพง หรือเลือกระยะเวลาผ่อนที่สั้นเกินไป ทำให้ค่างวดแต่ละเดือนสูงจนหมุนเงินไม่ทัน ส่งผลให้บางเดือนที่มีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ หรือมีรายได้ลดลง เกิดปัญหาเงินไม่พอจ่ายค่างวดรถได้
การค้างชำระค่างวดรถไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่มีผลกระทบหลายด้าน ดังนี้
หากผิดนัดชำระหนี้ ข้อมูลจะถูกรายงานไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร ทำให้ประวัติเครดิตเสียหาย ส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน หรือแม้แต่สินเชื่อบุคคลอย่างบัตรเครดิต
การผิดนัดชำระจะทำให้ถูกคิดดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ รวมถึงค่าปรับต่าง ๆ ยิ่งค้างชำระนานเท่าไร ยอดหนี้ก็จะยิ่งพอกพูนมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าค้างชำระค่างวดนานเกินกว่าที่กำหนดในสัญญา ทางสถาบันการเงินมีสิทธิ์ในการยึดรถ เพื่อนำไปขายทอดตลาด และนำเงินมาชดเชยยอดหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่งหากราคาที่ขายได้ต่ำกว่ายอดหนี้คงเหลือ ลูกหนี้ก็ยังจะต้องรับผิดชอบชำระในส่วนต่างอีกด้วย
สำหรับผู้ที่เผชิญกับปัญหาเงินไม่พอจ่ายค่างวดรถ สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการเหล่านี้
ทางออกแรกที่ควรทำทันทีคือ ติดต่อกับสถาบันการเงินเจ้าของสัญญาโดยตรง เพื่อเจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งอาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้นานขึ้นเพื่อลดยอดผ่อนต่อเดือน ขอพักชำระหนี้ชั่วคราว หรือขอชำระเฉพาะดอกเบี้ยไปก่อน สถาบันการเงินส่วนใหญ่มักเปิดโอกาสให้ลูกหนี้เจรจา มากกว่าการต้องยึดรถขายทอดตลาด
การรีไฟแนนซ์คือการหาแหล่งเงินกู้ใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า หรือเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ดีกว่า เพื่อนำมาปิดสัญญาเช่าซื้อเดิม วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่อนชำระมาแล้วระยะหนึ่งและมีประวัติการชำระเงินที่ดี หากทำก่อนเกิดปัญหาการค้างชำระ จะมีโอกาสได้รับข้อเสนอที่ดียิ่งขึ้น เป็นทางเลือกที่ช่วยให้จัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากไม่สามารถแบกรับภาระค่างวดได้อีกต่อไป การขายรถนับเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดยสามารถเลือกใช้วิธีขายดาวน์ให้แก่ผู้ที่สนใจรับช่วงสัญญาต่อ หรือหากผ่อนมานานพอสมควร อาจขายรถในราคาที่สูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ แล้วนำเงินมาปิดสัญญา ซึ่งจะช่วยให้หลุดจากภาระหนี้สิน และมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น
ในปัจจุบันมีช่องทางหารายได้เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานพาร์ตไทม์ออนไลน์ การขายของผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือแม้แต่การให้บริการขับรถรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้แล้ว ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากรถที่กำลังผ่อนอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย
ส่วนคนที่หาเงินจ่ายค่าผ่อนรถไม่ไหว แต่ไม่อยากขายหรือถูกยึดรถ เพราะจำเป็นต้องใช้งาน อาจใช้วิธีหาแหล่งเงินกู้ด่วนที่ปลอดภัยและมีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เช่น การจำนำทรัพย์สินมีค่าที่โรงรับจำนำที่น่าเชื่อถือ แทนที่จะหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง
เงินไม่พอจ่ายค่างวดรถเป็นสถานการณ์ที่หลายคนอาจต้องเผชิญ แต่ด้วยการรู้จักเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้โดยไม่ต้องสูญเสียรถและไม่ทำลายประวัติเครดิตของตนเอง
สำหรับคนที่ผ่อนรถไม่ไหว ต้องการกู้เงินด่วนอย่างปลอดภัย สามารถนำทรัพย์สินมีค่ามาจำนำที่โรงรับจำนำ Easy Money เราคิดอัตราดอกเบี้ยยุติธรรม ตีราคาทรัพย์สินให้สูงโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเก็บรักษาทรัพย์สินมีค่าของคุณเป็นอย่างดีจนกระทั่งถึงวันไถ่ถอน ทดลองตีราคาทรัพย์สินผ่านออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของเรา และใช้บริการได้ที่โรงรับจำนำ Easy Money ทุกสาขาทั่วประเทศไทย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-113-1123 วันจันทร์ - อาทิตย์ 8.00 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ข้อมูลอ้างอิง
1. ผ่อนรถไม่ไหว ไปต่อหรือพอแค่นี้. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/380-tsi-what-to-do-when-cannot-carry-on-car-payment