ทองคำ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางในการเก็บออมสำหรับใครหลายคน รวมทั้งยังเป็นของมีค่าที่สามารถขายคืนหรือนำไปจำนำ เพื่อแลกเป็นเงินสดมาใช้ในเวลาที่ขาดสภาพคล่องได้อีกด้วย และเพื่อให้การลงทุนซื้อทองมาเก็บสะสมสร้างคุ้มค่ามากที่สุด เรามีเทคนิคการเลือกทอง ว่าควรเลือกแบบไหน ให้สามารถขายคืนได้ หรือจะนำไปจำนำทองก็ได้ราคาดีมาแนะนำกัน
เคล็ดลับข้อแรก ในการเลือกซื้อทองไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง แหวนทองคำ หรือสร้อยคอทองคำ ยิ่งถ้าในอนาคตต้องการจะนำไปขายต่อ หรือเอาไปจำนำทองให้ได้ราคา คือควรเลือกซื้อจากร้านทองที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เพราะการันตีถึงความน่าเชื่อถือ และรับรองคุณภาพได้
สำหรับเคล็ดลับที่สองที่เราอยากจะแนะนำ คือ เลือกซื้อทองที่มีการระบุเปอร์เซ็นต์ทองบนชิ้นงาน เพราะร้านทองที่มีมาตรฐานจะมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทองคำ 1 สลึง สร้อยคอ 1 สลึง สร้อยคอ 2 สลึง ก็จะมีการตอกเพื่อระบุเปอร์เซ็นต์ทองลงไป โดยเปอร์เซ็นต์ทองที่เป็นมาตรฐาน ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ จะอยู่ที่ 96.5% ส่วนจุดตอกเปอร์เซ็นต์ หากเป็นแหวนทองครึ่งสลึงขึ้นไป รวมถึงกำไลข้อมือ จะระบุเอาไว้ที่บริเวณด้านในของชิ้นงาน แต่ถ้าเป็นสร้อยคอจะมีจุดตอกอยู่บริเวณตะขอ
นอกจากทองคำที่มีการสลักเปอร์เซ็นต์ทองแล้ว ทองคำยังมีการตอกตราสัญลักษณ์ของร้านทองลงบนชิ้นงานด้วย โดยโรงรับจำนำทองมักจะประเมินราคาให้สูงหากมีการตอกตราสัญลักษณ์ของร้านทองที่ซื้อมาเอาไว้ รวมถึงยังสามารถขายคืนให้กับร้านทองได้ในราคาที่ดีอีกด้วย เนื่องจากการตอกตราสัญลักษณ์จะช่วยให้มั่นใจว่าทองเป็นของแท้และซื้อมาจากร้านที่มีชื่อเสียง และเชื่อถือได้
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการเลือกซื้อทองให้ขายต่อได้ง่าย หรือจำนำได้ราคาดี คือควรเลือกทองรูปพรรณที่มีลวดลายแข็งแรง เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการขาดหรือเกิดรอยขีดข่วน สึกหรอ จนทำให้ทองเสียราคา โดยลายที่นิยมสำหรับสร้อยคอและสร้อยข้อมือ คือ ลายสี่เสา ลายเต่าทอง ส่วนแหวนทองคำที่แข็งแรง ต้องไม่มีลายฉลุและเกลี้ยงเกลา แต่หากเป็นลวดลายแฟชั่น เช่น ดอกไม้ หัวใจ ปลา จะมีการดึงทองจากตัวแหวนมาขึ้นลาย ทำให้ทองบนตัวแหวนบางลง
ในการซื้อทองคำทุกครั้ง ต้องไม่ลืมสอบถามค่ากำเหน็จ ซึ่งหมายถึง ค่าผลิตทองคำรูปพรรณให้เป็นลวดลายต่าง ๆ จากร้านขายทองทุกครั้ง เพราะราคาทองที่ซื้อจะรวมค่ากำเหน็จมาด้วยแล้ว ซึ่งเวลาที่ขายคืนรวมถึงนำไปจำนำ จะดูว่าได้ราคาที่ดีหรือไม่ ต้องดูจากราคาที่ยังไม่รวมค่ากำเหน็จ เพราะเป็นราคาจริงของทองนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดในการซื้อทองคำทุกครั้ง คือ ต้องให้ทางร้านชั่งน้ำหนักทองคำให้เราดูว่าตรงกับน้ำหนักที่แจ้งไว้ในใบรับประกันหรือไม่ เพราะถ้าน้ำหนักไม่ถึงตามที่ตกลงซื้อขายกันในตอนแรก เมื่อนำไปจำนำหรือขายคืน ทางร้านที่รับซื้อ รวมถึงโรงรับจำนำทองก็จะยึดตามน้ำหนักที่ชั่งจริงของทอง ซึ่งอาจทำให้เสียราคาได้
ส่วนเคล็ดลับสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ สำหรับคนที่ซื้อทองมาสะสมไว้เพื่อเก็งกำไร หรือเผื่อไว้หากต้องการนำไปจำนำเพื่อนำเงินมาหมุนในยามฉุกเฉิน คือ ควรเลือกซื้อทองแท่ง เพราะเสียค่ากำเหน็จที่น้อยกว่าทองรูปพรรณ และยังขายได้ราคาดีกว่าอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากจำนำทองให้ได้ราคาที่ดีที่สุด ต้องที่ Easy Money โรงรับจำนำเอกชนที่ประเมินราคาทองอย่างยุติธรรม โดยผู้ประเมินที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมมาตรฐานด้านการดูแลและเก็บรักษาทรัพย์สินของคุณให้ปลอดภัยและคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ปรึกษาเราได้ที่ สาขาใกล้บ้านคุณ หรือติดต่อ Call Center 02-113-1123 วันจันทร์ - อาทิตย์ 8.00 - 17.00 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)